ขนส่งพัสดุเร็วแค่ไหน เลือกอะไรได้บ้าง

ขนส่งพัสดุ
March 24, 2024

กำลังอยากใช้บริการขนส่งพัสดุแต่ยังคงมีข้อสงสัยเนื่องจากเป็นการดำเนินการครั้งแรก เดี๋ยวเราจะพาไปดูว่าจริง ๆ แล้วการขนส่งแต่ละครั้งใช้เวลานานแค่ไหน หรือสามารถเลือกตัวเลือกไหนได้บ้าง

ขนส่งพัสดุส่งรวดเร็วแค่ไหน

สำหรับระยะเวลาในการขนส่งพัสดุของแต่ละบริษัท โดยเฉลี่ยจะมีความใกล้เคียงกัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ กรณีส่งด่วนและส่งธรรมดา

  • กรณีส่งด่วน จะใช้เวลาในการขนส่งประมาณ 1 – 2 วัน ไม่ว่าจะภายในจังหวัดหรือต่างจังหวัด
  • กรณีส่งธรรมดา จะใช้เวลาประมาณ 3 – 5 วัน

แต่ทั้งนี้ระยะเวลาอาจมีความคลาดเคลื่อนจากหลายปัจจัยด้วย เช่น รถติด สินค้ามีปัญหา หรืออุบัติเหตุบนท้องถนน ฯลฯ

สามารถเลือกอะไรได้บ้าง

สำหรับผู้ให้บริการขนส่งพัสดุในประเทศไทยสามารถเลือกได้ด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ

1. ขนส่งเอกชน

โดยมีให้เลือกด้วยกันหลายรูปแบบแยกย่อย ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งโดยรถมอเตอร์ไซค์ ขนส่งโดยรถปิคอัพ ขนส่งโดยรถอีโคคาร์ 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ โดยสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมหรือให้สอดคล้องกับพัสดุที่ต้องการส่ง ส่วนวิธีการคำนวณค่าใช้จ่ายในการขนส่งจะขึ้นอยู่กับบริษัทนั้น ๆ บางที่คิดจากระยะทาง บางที่คิดจากน้ำหนักของพัสดุ

2. ขนส่งรัฐบาล

มีขั้นตอนการดำเนินการไม่ต่างกับบริษัทเอกชนเลย เพียงแค่ผู้ควบคุมเป็นรัฐบาลเองก็เท่านั้น

เลือกขนส่งยังไงให้ตอบโจทย์

หากได้คำตอบไปแล้วว่าขนส่งพัสดุใช้เวลานานแค่ไหนหรือเลือกอะไรได้บ้าง แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ไปดูดีกว่าว่าเวลาเลือกขนส่งต้องดูปัจจัยใดบ้างถึงจะสามารถเลือกให้ตอบโจทย์ความต้องการได้

  • ความปลอดภัย หลายคนอาจคิดว่าการใช้บริการขนส่งขอเพียงแค่พัสดุส่งตรงถึงปลายทางก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญความปลอดภัยด้วย จะได้มั่นใจว่าพัสดุที่เรานำส่งให้กับขนส่งสามารถส่งถึงปลายทางโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียหายหรือเกิดปัญหาใด ๆ  
  • งบประมาณ ต้องสามารถทำการเช็กได้ว่าบริษัทนั้น ๆ ต้องจ่ายค่าขนส่งเท่าไหร่ คิดจากอะไร อาจเป็นการกรอกข้อมูลด้วยตนเองหรือคำนวณให้อัตโนมัติก็ได้ ขอแค่สามารถเช็กล่วงหน้าได้ก็พอ
  • ควรเปิดให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถึงแม้เราจะรู้ดีว่าการส่งของที่ดีที่สุด คือ ช่วงเวลากลางวัน แต่เวลาที่เรามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขนส่งตอนกลางคืนล่ะ จะปล่อยให้ความสงสัยนั้นดำเนินต่อไปไม่ได้ ต้องหาคำตอบได้ในทันทีและไม่มีอะไรดีไปกว่าการเลือกบริการขนส่งที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง

และสุดท้ายไม่ว่าจะเลือกขนส่งพัสดุประเภทไหนก็ตามอย่าลืมให้ความสำคัญกับการศึกษาวิธีการแพ็กของเพื่อให้สินค้าหรือพัสดุเกิดความเสียหายน้อยที่สุด รวมไปถึงการเลือกประเภทรถให้มีความสอดคล้องกันด้วย จะได้มั่นใจว่านอกจากจะปลอดภัยแล้วยังจ่ายในราคาไม่แพง

Tags: